ม้าลายผยองบุกถองเรือล่ม 1-2
หน้า 1 จาก 1
ม้าลายผยองบุกถองเรือล่ม 1-2
16 กันยายน 2558
การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดแรก ที่สนามเอติฮัต สเตเดียม ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ยูเวนตุส แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี
มานูเอล เปเยกรินี นายใหญ่ของ 'เรือใบสีฟ้า' ตัดสินใจพัก เซร์คิโอ อเกวโร กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาที่มีปัญหาเรื่องความฟิตไว้ที่ม้านั่งสำรอง พร้อมปรับแผนการเล่นเป็น 4-2-3-1 โดยวาง วิลเฟรด โบนี เป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่าย และมี ราฮีม สเตอร์ลิง, ซามิร์ นาสรี และ ดาบิด ซิลบา คอยเติมเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
ขณะที่ 'เจ้าม้าลาย' ของกุนซือ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี กลับมาใช้แผนการเล่น 4-3-3 อีกครั้ง วาง จอร์จิโอ คิเอลลินี จับคู่กับ เลโอนาร์โด โบนุชชี ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง โดยมี ฮวน กิลเยอร์โม กัวดราโด้, อัลบาโร โมราต้า และ มาริโอ มานด์ซูคิซ เป็นสามประสานทีเด็ดในแนวรุก
เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที เจ้าบ้านหาโอกาสเปิดฉากทักทายก่อน จากจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ ตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนเลี้ยงขึ้นหน้าและบรรจงไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง เอี้ยวตัวแปด้วยขวา บอลพุ่งไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟอน ก่อนที่ จอร์จิโอ คิเอลลินี จะมาช่วยสกัดทิ้งออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นนาทีที่ 11 ยูเว่มีโอกาสลุ้นประตูบ้าง จากจังหวะที่ ฮวน กิลเยอร์โม กัวดราโด้ ตั้งป้อมเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษให้ พอล ป็อกบา พุ่งโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย แต่ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินใจยกธงล้ำหน้าจากจังหวะที่ อัลบาโร โมราต้า พยายามเล่นบอลไปก่อนหน้านี้เเล้ว
นาทีที่ 22 กลับมาเป็นโอกาสของ แมนฯ ซิตี้ จากจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ เข้าสกัดเอาชนะ พอล ป็อกบา ก่อนหาช่องสับไกลด้วยขวาเต็มข้อจากระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งหลุดเสาไกลออกหลังไปแบบได้ลุ้นทีเดียว
รูปเกมเป็นทีมเยือนที่เน้นตั้งรับแล้วรอสวนกลับ จนเกือบได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 30 จากจังหวะที่ ฮวน กิลเยอร์โม กัวดราโด้ ลากจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนกดด้วยขวาเต็มข้อจากระยะประมาณ 30 หลาบอลพุ่งหนีมือ โจ ฮาร์ท หลุดเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว
ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 40 เจ้าถิ่นเกือบมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ซามิร์ นาสรี ตั้งป้อมเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็นแนวรับ ยูเว่ สกัดออกไปตรงบริเวณหัวกระโหลกเข้าทาง แฟร์นันดินโญ วิ่งเข้ามาฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ บอลติดไซร้ก้อยโค้งหลุดเสาไกลออกไป ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกับแบบไร้สกอร์ 0-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่นาน นาทีที่ 57 กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่มาได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ แว็งซองต์ กอมปานี ขึ้นเบียดแย่งโหม่งกับ จอร์จิโอ คิเอลลินี ก่อนที่บอลจะมาโดนหัวของ คิเอลลินี เข้าประตูตัวเองให้ ส่งให้ซิตี้ขึ้นนำ 1-0
2 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา บรรจงไหลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง เอี้ยวตัวแปด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ บอลติดเซฟของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ก่อนกระดอนออกมาเข้าทาง ซิลบา ซ้ำดาบสองเต็มข้อ แต่ว่า บุฟฟ่อน ยังโชว์ซูเปอร์เซฟ ด้วยการใช้ตัวบล็อคออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 70 ทีมเยือนมาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ พอล ป็อกบา แตะบอลแต่งเข้ากลาง ก่อนโยนจากราบซ้ายเข้ามาในเขตโทษให้ มาริโอ มานด์ซูคิซ ล้มตัวสะกิดด้วยขวาเปลี่ยนทาง ส่งบอลพุ่งเช็ดเสาไกลเข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่ โจ ฮาร์ท ทำได้เพียงยืนเซฟด้วยสายตา
ยิ่งไปกว่านั้น ท้ายเกมนาทีที่ 81 ยูเว่มาได้ประตูพลิกแซงชนะ จากจังหวะที่ เลโอนาร์โด โบนุชชี สาดยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ ฮวน กิลเยอร์โม กัวดราโด้ เบียดจนบอลไปตกใส่อกของ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ และไหลไปเข้าทาง อัลบาโร โมราต้า ปั่นตามน้ำด้วยซ้ายบริเวณหัวกระโหลก ส่งบอลโค้งหนีมือ โจ ฮาร์ท เสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสุดสวย
จบเกม ยูเวนตุส พลิกแซงชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบสุดมัน 2-1 บุกเก็บสามคะแนนสำคัญ พร้อบกับเป็นชัยชนะนัดแรกประจำฤดูกาล 2015-16 และรั้งอันดับสองของกลุ่มดี โดยมี 3 คะแนนเท่ากับ เซบีญา แต่ประตูได้เสียน้อยกว่า 2 ประตูนั่นเอง
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป แมนฯ ซิตี้ เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมลีกวันเสาร์นี้ เวลา 23.30 น. ขณะที่ ยูเว่ มีคิวบุกไปเยือน เจนัว ในเกมลีกวันอาทิตย์นี้ เวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
การแข่งขันฟุตบอล ยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม กลุ่มดี นัดแรก ที่สนามเอติฮัต สเตเดียม ระหว่าง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ รองแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ยูเวนตุส แชมป์กัลโช เซเรีย อา อิตาลี
มานูเอล เปเยกรินี นายใหญ่ของ 'เรือใบสีฟ้า' ตัดสินใจพัก เซร์คิโอ อเกวโร กองหน้าทีมชาติอาร์เจนตินาที่มีปัญหาเรื่องความฟิตไว้ที่ม้านั่งสำรอง พร้อมปรับแผนการเล่นเป็น 4-2-3-1 โดยวาง วิลเฟรด โบนี เป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่าย และมี ราฮีม สเตอร์ลิง, ซามิร์ นาสรี และ ดาบิด ซิลบา คอยเติมเกมสนับสนุนอยู่ด้านหลัง
ขณะที่ 'เจ้าม้าลาย' ของกุนซือ มัสซิมิเลียโน อัลเลกรี กลับมาใช้แผนการเล่น 4-3-3 อีกครั้ง วาง จอร์จิโอ คิเอลลินี จับคู่กับ เลโอนาร์โด โบนุชชี ในตำแหน่งปราการหลังตัวกลาง โดยมี ฮวน กิลเยอร์โม กัวดราโด้, อัลบาโร โมราต้า และ มาริโอ มานด์ซูคิซ เป็นสามประสานทีเด็ดในแนวรุก
เริ่มเกมมาเพียง 3 นาที เจ้าบ้านหาโอกาสเปิดฉากทักทายก่อน จากจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ ตัดบอลได้บริเวณกลางสนาม ก่อนเลี้ยงขึ้นหน้าและบรรจงไหลเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง เอี้ยวตัวแปด้วยขวา บอลพุ่งไปตรงตัว จานลุยจิ บุฟฟอน ก่อนที่ จอร์จิโอ คิเอลลินี จะมาช่วยสกัดทิ้งออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
จากนั้นนาทีที่ 11 ยูเว่มีโอกาสลุ้นประตูบ้าง จากจังหวะที่ ฮวน กิลเยอร์โม กัวดราโด้ ตั้งป้อมเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในเขตโทษให้ พอล ป็อกบา พุ่งโหม่งเข้าไปตุงตาข่าย แต่ว่าผู้ช่วยผู้ตัดสินใจยกธงล้ำหน้าจากจังหวะที่ อัลบาโร โมราต้า พยายามเล่นบอลไปก่อนหน้านี้เเล้ว
นาทีที่ 22 กลับมาเป็นโอกาสของ แมนฯ ซิตี้ จากจังหวะที่ แฟร์นันดินโญ เข้าสกัดเอาชนะ พอล ป็อกบา ก่อนหาช่องสับไกลด้วยขวาเต็มข้อจากระยะประมาณ 30 หลา บอลพุ่งหลุดเสาไกลออกหลังไปแบบได้ลุ้นทีเดียว
รูปเกมเป็นทีมเยือนที่เน้นตั้งรับแล้วรอสวนกลับ จนเกือบได้ประตูขึ้นนำ ในนาทีที่ 30 จากจังหวะที่ ฮวน กิลเยอร์โม กัวดราโด้ ลากจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนกดด้วยขวาเต็มข้อจากระยะประมาณ 30 หลาบอลพุ่งหนีมือ โจ ฮาร์ท หลุดเสาไกลออกหลังไปนิดเดียว
ท้ายครึ่งแรกนาทีที่ 40 เจ้าถิ่นเกือบมาได้ประตูขึ้นนำ จากจังหวะที่ ซามิร์ นาสรี ตั้งป้อมเปิดจากริมเส้นฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็นแนวรับ ยูเว่ สกัดออกไปตรงบริเวณหัวกระโหลกเข้าทาง แฟร์นันดินโญ วิ่งเข้ามาฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ บอลติดไซร้ก้อยโค้งหลุดเสาไกลออกไป ทำให้จบครึ่งแรกทั้งสองทีมยังเสมอกับแบบไร้สกอร์ 0-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้ไม่นาน นาทีที่ 57 กลายเป็น แมนฯ ซิตี้ ที่มาได้ประตูออกนำไปก่อน จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งซ้ายเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ แว็งซองต์ กอมปานี ขึ้นเบียดแย่งโหม่งกับ จอร์จิโอ คิเอลลินี ก่อนที่บอลจะมาโดนหัวของ คิเอลลินี เข้าประตูตัวเองให้ ส่งให้ซิตี้ขึ้นนำ 1-0
2 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นเกือบได้ประตูที่ 2 จากจังหวะที่ ดาบิด ซิลบา บรรจงไหลทะลุช่องเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งซ้ายให้ ราฮีม สเตอร์ลิง เอี้ยวตัวแปด้วยขวาแบบไม่ต้องจับ บอลติดเซฟของ จานลุยจิ บุฟฟ่อน ก่อนกระดอนออกมาเข้าทาง ซิลบา ซ้ำดาบสองเต็มข้อ แต่ว่า บุฟฟ่อน ยังโชว์ซูเปอร์เซฟ ด้วยการใช้ตัวบล็อคออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
อย่างไรก็ตาม นาทีที่ 70 ทีมเยือนมาตามตีเสมอได้สำเร็จ จากจังหวะที่ พอล ป็อกบา แตะบอลแต่งเข้ากลาง ก่อนโยนจากราบซ้ายเข้ามาในเขตโทษให้ มาริโอ มานด์ซูคิซ ล้มตัวสะกิดด้วยขวาเปลี่ยนทาง ส่งบอลพุ่งเช็ดเสาไกลเข้าไปตุงตาข่าย ชนิดที่ โจ ฮาร์ท ทำได้เพียงยืนเซฟด้วยสายตา
ยิ่งไปกว่านั้น ท้ายเกมนาทีที่ 81 ยูเว่มาได้ประตูพลิกแซงชนะ จากจังหวะที่ เลโอนาร์โด โบนุชชี สาดยาวจากแดนตัวเองขึ้นหน้าให้ ฮวน กิลเยอร์โม กัวดราโด้ เบียดจนบอลไปตกใส่อกของ อเล็กซานเดอร์ โคลารอฟ และไหลไปเข้าทาง อัลบาโร โมราต้า ปั่นตามน้ำด้วยซ้ายบริเวณหัวกระโหลก ส่งบอลโค้งหนีมือ โจ ฮาร์ท เสียบเสาไกลเข้าไปอย่างสุดสวย
จบเกม ยูเวนตุส พลิกแซงชนะ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไปแบบสุดมัน 2-1 บุกเก็บสามคะแนนสำคัญ พร้อบกับเป็นชัยชนะนัดแรกประจำฤดูกาล 2015-16 และรั้งอันดับสองของกลุ่มดี โดยมี 3 คะแนนเท่ากับ เซบีญา แต่ประตูได้เสียน้อยกว่า 2 ประตูนั่นเอง
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป แมนฯ ซิตี้ เตรียมเปิดบ้านรับการมาเยือนของ เวสต์แฮม ยูไนเต็ด ในเกมลีกวันเสาร์นี้ เวลา 23.30 น. ขณะที่ ยูเว่ มีคิวบุกไปเยือน เจนัว ในเกมลีกวันอาทิตย์นี้ เวลา 20.00 น. ตามเวลาประเทศไทย
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|