เสือเหลืองขยี้ห้างยา 3-0 ทวงฝูงคืน
หน้า 1 จาก 1
เสือเหลืองขยี้ห้างยา 3-0 ทวงฝูงคืน
21 กันยายน 2558
การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน ประจำสัปดาห์ที่ 5 ที่สนามซิกนัล อิดูนา พาร์ค ระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนเกมรั้งอันดับ 2 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ก่อนเกมรั้งอันดับ 13 ของตาราง
โธมัส ทูเคิล เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ยังคงยึดผู้เล่นชุดเดิมจากเกมลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่บุกถล่ม ฮันโนเวอร์ 96 สุดมัน 4-2 นำโดย โรมัน บูร์กี้ (ผู้รักษาประตู), แมตส์ ฮุมเมลส์, อิลคาย กุนโดกัน, โยนาส ฮอฟแมนน์, ชินจิ คางาวะ, เฮนริค เมอคิตาร์ยาน และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ยืนเป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่ายเช่นเคย
ขณะที่ผู้มาเยือนของกุนซือ โรเจอร์ ชมิดท์ จัดทัพมาในระบบ 4-4-2 ตามสไตล์ถนัด วาง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กับ สเตฟาน คีสลิงก์ เป็นคู่หูในแดนหน้า โดยมี คริสโตฟ เครเมอร์, คาริม เบลลาราบี, ฮาคาน คัลฮาโนกลู และ เควิน คัมเปิล อดีตกองกลางเสือเหลืองที่ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าครั้งแรก คอยเติมเกมสนับสนุน
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 14 เจ้าถิ่นเริ่มหาโอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ เฮนริค เมอคิตาร์ยาน ลากตัดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ากลาง และทำชิ่งกับ อิลคาย กุนโดกัน ก่อนลากหาช่องแล้วส่องด้วยขวาเต็มข้อบริเวณหัวกระโหลก ทิศทางบอลพุ่งตรงกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกอยู่แล้ว ทว่า แบรนด์ เลโน ยังปฏิกิริยาไวพุ่งปัดปลายมือออกไปได้อย่างหวุดหวิด
2 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นได้โอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ มัทธิอัส กินเทอร์ เบิ้ลขึ้นหน้าไปทางริมเส้นฝั่งขวาให้ เติมเกมบุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา โยนาส ฮอฟแมนน์ ปาดเลียดเข้าไปในเขตโทษแบบไม่ต้องจับ และเป็น ชินจิ คางาวะ เคาะย้อนกลับมาตรงหัวกระโหลกให้ อิลคาย กุนโดกัน วางเท้าแปด้วยขวา แต่โดนเหลี่ยมไม่ดี บอลค่อยๆไหลผ่านเสาไกลออกหลังไป
Goal!! กระทั่งนาทีที่ 19 เสือเหลืองมาพังประตูออกนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะสวนกลับเร็วที่ ชินจิ คางาวะ ทิ้งยาวจากกลางสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น แบรนด์ เลโน ออกมาตัดบอลวืด ทำให้ โยนาส ฮอฟแมนน์ ตวัดแปหักข้อเสียบเสาไกลเข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้ดอร์ทมุนด์ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก ดอร์ทมุนด์ยังรักษาสกอร์นำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง โรเจอร์ ชมิดท์ เลือกแก้เกมก่อนทันที โดยถอดเอา สเตฟาน คีสลิงก์ ที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ออก กับ คริสโตฟ เครเมอร์ ออกไปพักที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่งสองแนวรุกอย่าง ยูเลียน บรันด์ท และ อัดเมียร์ เมห์เมดี้ ลงมาทำหน้าที่แทน
นาทีที่ 50 เจ้าถิ่นเริ่มเปิดฉากทักทายก่อนเช่นเคย จากจังหวะสวนกลับเร็วที่ ยูเลียน วีเกิล บรรจงแทงทะลุช่องให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง หลุดกับดักล้ำหน้าพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายล้มตัวยิงไปติด แบรนด์ เลโน ที่ออกมาปิดมุมได้ทันพอดี
ถัดมาไม่ถึงนาที เลเวอร์ฯ มีโอกาสบ้างและน่าเป็นประตูตีเสมอเสียจริง จากจังหวะที่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดเซฟของ โรมัน บูร์กี้ ที่ออกมาใช้ตัวบล็อคได้ทันพอดี เช่นเดียวกับจังหวะลุ้นประตูของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เมื่อก่อนหน้านี้
Goal!! กระทั่งนาทีที่ 58 กลายเป็น ดอร์ทมุนด์ ที่มาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะการประสานงานอันยอดเยี่ยม เริ่มจาก โยนาส ฮอฟแมนน์ โยกหนีตัวประกบบริเวณริมเส้นฝั่งขวา ก่อนไหลเข้ากลางให้ อิลคาย กุนโดกัน ถ่ายต่อให้ เฮนริค เมอคิตาร์ยาน เบิ้ลเร็วเข้าไปในเขตโทษให้ ชินจิ คางาวะ จับหนึ่งจังหวะก่อนดีดด้วยขวาเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบคม
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 74 เจ้าถิ่นมาได้ประตูตอกฝาโลง จากจังหวะที่ เวนเดลล์ แบ็คซ้าย เลเวอร์คูเซน จับบอลยาวไปเข้าทาง มัทธิอัส กินเทอร์ กระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนถูก เวนเดลล์ ตามมาเหนี่ยวล้มลง ทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกชี้เป็นจุดโทษทันที พร้อมควักใบเหลืองให้กับฟูลแบ็คชาวบราซิเลียน และเป็น ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด
จบเกม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านถล่ม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ไปอย่างขาดลอย 3-0 เพิ่มสถิติชนะรวด 11 นัดรวมทุกรายการ นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2015-16 พร้อมแซง บาเยิร์น มิวนิค กลับไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางตามเดิม หลังมี 15 คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้เสียดีกว่า 2 ประตูนั่นเอง
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ดอร์ทมุนด์ มีคิวบุกไปเยือน ฮอฟเฟนไฮม์ ในวันพุธที่จะถึงนี้ เวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ เลเวอร์คูเซน เตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ไมนซ์ 05 ในวันและเวลาเดียวกัน
การแข่งขันฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน ประจำสัปดาห์ที่ 5 ที่สนามซิกนัล อิดูนา พาร์ค ระหว่าง โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ ก่อนเกมรั้งอันดับ 2 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ก่อนเกมรั้งอันดับ 13 ของตาราง
โธมัส ทูเคิล เทรนเนอร์เจ้าถิ่น ยังคงยึดผู้เล่นชุดเดิมจากเกมลีกเมื่อสัปดาห์ก่อน ที่บุกถล่ม ฮันโนเวอร์ 96 สุดมัน 4-2 นำโดย โรมัน บูร์กี้ (ผู้รักษาประตู), แมตส์ ฮุมเมลส์, อิลคาย กุนโดกัน, โยนาส ฮอฟแมนน์, ชินจิ คางาวะ, เฮนริค เมอคิตาร์ยาน และ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง ยืนเป็นหน้าเป้าไล่ล่าตาข่ายเช่นเคย
ขณะที่ผู้มาเยือนของกุนซือ โรเจอร์ ชมิดท์ จัดทัพมาในระบบ 4-4-2 ตามสไตล์ถนัด วาง ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ กับ สเตฟาน คีสลิงก์ เป็นคู่หูในแดนหน้า โดยมี คริสโตฟ เครเมอร์, คาริม เบลลาราบี, ฮาคาน คัลฮาโนกลู และ เควิน คัมเปิล อดีตกองกลางเสือเหลืองที่ได้กลับมาเยือนถิ่นเก่าครั้งแรก คอยเติมเกมสนับสนุน
เกมผ่านมาถึงนาทีที่ 14 เจ้าถิ่นเริ่มหาโอกาสทักทายก่อน จากจังหวะที่ เฮนริค เมอคิตาร์ยาน ลากตัดจากริมเส้นฝั่งซ้ายเข้ากลาง และทำชิ่งกับ อิลคาย กุนโดกัน ก่อนลากหาช่องแล้วส่องด้วยขวาเต็มข้อบริเวณหัวกระโหลก ทิศทางบอลพุ่งตรงกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมเสาแรกอยู่แล้ว ทว่า แบรนด์ เลโน ยังปฏิกิริยาไวพุ่งปัดปลายมือออกไปได้อย่างหวุดหวิด
2 นาทีต่อมา เจ้าถิ่นได้โอกาสอีกครั้ง จากจังหวะที่ มัทธิอัส กินเทอร์ เบิ้ลขึ้นหน้าไปทางริมเส้นฝั่งขวาให้ เติมเกมบุกขึ้นมาทางริมเส้นฝั่งขวา โยนาส ฮอฟแมนน์ ปาดเลียดเข้าไปในเขตโทษแบบไม่ต้องจับ และเป็น ชินจิ คางาวะ เคาะย้อนกลับมาตรงหัวกระโหลกให้ อิลคาย กุนโดกัน วางเท้าแปด้วยขวา แต่โดนเหลี่ยมไม่ดี บอลค่อยๆไหลผ่านเสาไกลออกหลังไป
Goal!! กระทั่งนาทีที่ 19 เสือเหลืองมาพังประตูออกนำไปก่อนจนได้ จากจังหวะสวนกลับเร็วที่ ชินจิ คางาวะ ทิ้งยาวจากกลางสนามเข้าไปในกรอบเขตโทษ และเป็น แบรนด์ เลโน ออกมาตัดบอลวืด ทำให้ โยนาส ฮอฟแมนน์ ตวัดแปหักข้อเสียบเสาไกลเข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้ดอร์ทมุนด์ขึ้นนำ 1-0 จากนั้นเวลาที่เหลือทั้งสองทีมทำอะไรกันเพิ่มไม่ได้ ทำให้จบ 45 นาทีแรก ดอร์ทมุนด์ยังรักษาสกอร์นำอยู่ 1-0
กลับมาเล่นในครึ่งหลัง โรเจอร์ ชมิดท์ เลือกแก้เกมก่อนทันที โดยถอดเอา สเตฟาน คีสลิงก์ ที่วันนี้โชว์ฟอร์มไม่ออก กับ คริสโตฟ เครเมอร์ ออกไปพักที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่งสองแนวรุกอย่าง ยูเลียน บรันด์ท และ อัดเมียร์ เมห์เมดี้ ลงมาทำหน้าที่แทน
นาทีที่ 50 เจ้าถิ่นเริ่มเปิดฉากทักทายก่อนเช่นเคย จากจังหวะสวนกลับเร็วที่ ยูเลียน วีเกิล บรรจงแทงทะลุช่องให้ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง หลุดกับดักล้ำหน้าพาบอลเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายล้มตัวยิงไปติด แบรนด์ เลโน ที่ออกมาปิดมุมได้ทันพอดี
ถัดมาไม่ถึงนาที เลเวอร์ฯ มีโอกาสบ้างและน่าเป็นประตูตีเสมอเสียจริง จากจังหวะที่ ฮาเวียร์ เอร์นานเดซ หลุดเดี่ยวเข้าไปในกรอบเขตโทษ แต่จังหวะสุดท้ายยิงไปติดเซฟของ โรมัน บูร์กี้ ที่ออกมาใช้ตัวบล็อคได้ทันพอดี เช่นเดียวกับจังหวะลุ้นประตูของ ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง เมื่อก่อนหน้านี้
Goal!! กระทั่งนาทีที่ 58 กลายเป็น ดอร์ทมุนด์ ที่มาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะการประสานงานอันยอดเยี่ยม เริ่มจาก โยนาส ฮอฟแมนน์ โยกหนีตัวประกบบริเวณริมเส้นฝั่งขวา ก่อนไหลเข้ากลางให้ อิลคาย กุนโดกัน ถ่ายต่อให้ เฮนริค เมอคิตาร์ยาน เบิ้ลเร็วเข้าไปในเขตโทษให้ ชินจิ คางาวะ จับหนึ่งจังหวะก่อนดีดด้วยขวาเบียดเสาแรกเข้าไปอย่างเฉียบคม
เท่านั้นไม่พอ นาทีที่ 74 เจ้าถิ่นมาได้ประตูตอกฝาโลง จากจังหวะที่ เวนเดลล์ แบ็คซ้าย เลเวอร์คูเซน จับบอลยาวไปเข้าทาง มัทธิอัส กินเทอร์ กระชากหลุดเข้าไปในกรอบเขตโทษฝั่งขวา ก่อนถูก เวนเดลล์ ตามมาเหนี่ยวล้มลง ทำให้ผู้ตัดสินไม่มีทางเลือกชี้เป็นจุดโทษทันที พร้อมควักใบเหลืองให้กับฟูลแบ็คชาวบราซิเลียน และเป็น ปิแอร์ เอเมอริค โอบาเมยอง รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด
จบเกม โบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ เปิดบ้านถล่ม ไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ไปอย่างขาดลอย 3-0 เพิ่มสถิติชนะรวด 11 นัดรวมทุกรายการ นับตั้งแต่เปิดฤดูกาล 2015-16 พร้อมแซง บาเยิร์น มิวนิค กลับไปนำเป็นจ่าฝูงของตารางตามเดิม หลังมี 15 คะแนนเท่ากัน แต่ประตูได้เสียดีกว่า 2 ประตูนั่นเอง
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป ดอร์ทมุนด์ มีคิวบุกไปเยือน ฮอฟเฟนไฮม์ ในวันพุธที่จะถึงนี้ เวลา 01.00 น. ตามเวลาประเทศไทย ขณะที่ เลเวอร์คูเซน เตรียมเปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ ไมนซ์ 05 ในวันและเวลาเดียวกัน
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|