สิงห์มีเหนื่อยไล่เจ๊าสาลิกาท้ายเกม 2-2
หน้า 1 จาก 1
สิงห์มีเหนื่อยไล่เจ๊าสาลิกาท้ายเกม 2-2
27 กันยายน 2558
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำสัปดาห์ที่ 7 ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค ระหว่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก่อนเกมรั้งอันดับ 19 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ก่อนเกมรั้งอันดับ 16 ของตาราง
สตีฟ แม็คคลาเรน เทรนเนอร์เจ้าถิ่น กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หลังยังไม่ชนะคู่แข่งเลยในฤดูกาลนี้ แถมมีผู้เล่นบาดเจ็บเกือบครึ่งทีม แต่เกมนี้มีข่าวดีเมื่อได้ อเล็กซานดรา มิโตรวิช กองหน้าแบดบอยทีมชาติเซอร์เบียพ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยมาจับคู่กับ อโยเซ เปเรซ และมี จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ มุสซา ซิสโซโก้ คอยเติมเกมขนาบข้างทางริมเส้นซ้ายขวา
ขณะที่ทีมเยือนของกุนซือ โชเซ มูรินโญ หมดสิทธิ์ใช้งาน ดิเอโก้ คอสต้า กองหน้าจอมปัญหาที่ติดโทษแบน 3 นัด ฐานก่อความวุ่นวายในเกมกับ อาร์เซนอล ทำให้ โลอิก เรมี ได้โอกาสลงมาทำหน้าที่แทน นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นชุดเดิมจากเกมเอาชนะ 'ไอ้ปืนใหญ่' 2-0 นำโดย อัสมีร์ เบโกวิช (ผู้รักษาประตู), เคิร์ท ซูมา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เชสก์ ฟาเบรกาส และ เอเด็น อาซาร์
เริ่มเกมมาได้เพียง 11 นาที เชลซี ฉวยโอกาสเปิดฉากทักทายก่อนทันที จากลูกที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เปิดยัดจากในกรอบเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลางให้ โลอิก เรมี วางเท้าแปด้วยซ้ายเฉี่ยวเสาแรกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดมานาทีที่ 16 เจ้าถิ่นเริ่มหาโอกาสตอบโต้คืนบ้าง จากจังหวะที่ มุสซา ซิสโซโก้ ลากจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนกดหักข้อด้วยขวาจากระยะประมาณ 25 หลา ส่งบอลพุ่งเฉี่ยวเสาไกลออกหลังไปนิดเดียวเช่นกัน
นาทีที่ 37 เชสก์ ฟาเบรกาส แตะแต่งหาส่องก่อนส่องด้วยขวาเต็มข้อจากระยะเกือบ 30 หลา บอลติดไซร้ก้อยโค้งกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมฝั่งขวาอยู่แล้ว แต่ว่า ทิม ครูล ประตูเจ้าถิ่นโชว์ซูเปอร์เซฟ บินปัดสุดปลายมือออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
Goal! แต่แล้วนาทีที่ 42 กลายเป็นเจ้าถิ่นที่มาได้ประตูออกนำไปก่อน จากลูกที่ เวอร์นอน อนิต้า โยนยาวจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ อโยเซ เปเรซ ที่ยืนตรงกลางระหว่าง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กับ เคิร์ท ซูมา ดูดบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเช็ดเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้นิวคาสเซิลขึ้นนำ 1-0 และก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้เพียง 9 นาที (นาทีที่ 54) นิวคาสเซิล ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวไปโดยปริยาย เนื่องจาก แจ็ค โคลแบ็ค กองกลางตัวรับชาวผู้ดีมีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ สตีฟ แม็คคลาเรน ตัดสินใจส่ง กาเบรียล โอแบร์กต็อง ลงมาเล่นแทน
Goal!! นาทีที่ 60 นิวคาสเซิล มาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อโยเซ เปเรซ เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม สลัดหนีตัวประกบโหม่งเช็ดหนีมือ อัสมีร์ เบโกวิช เสียบเสาไกลเข้าไปตุงตาข่าย
หลังจากถูกนำไปก่อนถึง 2 ประตู ทำให้ โชเซ มูรินโญ แก้เกมทันที โดยถอดเอา เนมานยา มาติช และ โลอิก เรมี ออกไปพักที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่ง วิลเลียน กับ ราดาเมล ฟัลเกา ลงมาเล่นแทน
กระทั่งนาทีที่ 79 แชมป์เก่ามาทำประตูตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะที่ เอเด็น อาซาร์ โชว์สเต็ปพริ้วลากตัดจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง ก่อนไหลถวายพานออกไปทางฝั่งขวาให้ รามิเรส จับหนึ่งจังหวะ ก่อนหวดเต็มข้อล่อเต็มแข่งบอลพุ่งแรงเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลเข้าไปอย่างสุดสวย ช่วยให้เชลซีไล่มาเป็น 1-2
ท้ายเกมนาทีที่ 88 แฟนทูนอาร์มีนั่งหน้าบูดกันเป็นแถบ หลังจากเชลซีตามตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาเยื้องมาทางฝั่งซ้าย และเป็น วิลเลียน รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาเข้าไปลุ้นในเขตโทษ และเป็น รามิเรส โฉบมาโหม่งแต่ไม่โดน ทำให้บอลสวนตัว ทิม ครูล เข้าไปตุงตาข่าย
จบเกม เชลซี บุกไล่ตีเสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปแบบหืดจับ 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้ เชลซี ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 15 ของตาราง มี 8 คะแนน ส่วน นิวคาสเซิล จมอยู่ในอันดับ 19 ของตารางต่อไป มีเพียง 3 คะแนนเท่านั้น
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป นิวคาสเซิล เตรียมบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์หน้า เวลา 21.00 น. ขณะที่ เชลซี เตรียมออกไปเยือน เอฟซี ปอร์โต้ ในศึกยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง วันอังคารที่จะถึงนี้ เวลา 01.45 น. ตามเวลาประทศไทย
การแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำสัปดาห์ที่ 7 ที่สนามเซนต์ เจมส์ พาร์ค ระหว่าง นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ก่อนเกมรั้งอันดับ 19 ของตาราง เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ เชลซี ก่อนเกมรั้งอันดับ 16 ของตาราง
สตีฟ แม็คคลาเรน เทรนเนอร์เจ้าถิ่น กำลังตกอยู่ในสถานการณ์ลำบาก หลังยังไม่ชนะคู่แข่งเลยในฤดูกาลนี้ แถมมีผู้เล่นบาดเจ็บเกือบครึ่งทีม แต่เกมนี้มีข่าวดีเมื่อได้ อเล็กซานดรา มิโตรวิช กองหน้าแบดบอยทีมชาติเซอร์เบียพ้นโทษแบนกลับมาเป็นตัวจริงอีกครั้ง โดยมาจับคู่กับ อโยเซ เปเรซ และมี จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม กับ มุสซา ซิสโซโก้ คอยเติมเกมขนาบข้างทางริมเส้นซ้ายขวา
ขณะที่ทีมเยือนของกุนซือ โชเซ มูรินโญ หมดสิทธิ์ใช้งาน ดิเอโก้ คอสต้า กองหน้าจอมปัญหาที่ติดโทษแบน 3 นัด ฐานก่อความวุ่นวายในเกมกับ อาร์เซนอล ทำให้ โลอิก เรมี ได้โอกาสลงมาทำหน้าที่แทน นอกนั้นยังเป็นผู้เล่นชุดเดิมจากเกมเอาชนะ 'ไอ้ปืนใหญ่' 2-0 นำโดย อัสมีร์ เบโกวิช (ผู้รักษาประตู), เคิร์ท ซูมา, บรานิสลาฟ อิวาโนวิช, เชสก์ ฟาเบรกาส และ เอเด็น อาซาร์
เริ่มเกมมาได้เพียง 11 นาที เชลซี ฉวยโอกาสเปิดฉากทักทายก่อนทันที จากลูกที่ บรานิสลาฟ อิวาโนวิช เปิดยัดจากในกรอบเขตโทษฝั่งขวาเข้ากลางให้ โลอิก เรมี วางเท้าแปด้วยซ้ายเฉี่ยวเสาแรกออกหลังไปอย่างน่าเสียดาย
ถัดมานาทีที่ 16 เจ้าถิ่นเริ่มหาโอกาสตอบโต้คืนบ้าง จากจังหวะที่ มุสซา ซิสโซโก้ ลากจี้เข้าหาเขตโทษ ก่อนกดหักข้อด้วยขวาจากระยะประมาณ 25 หลา ส่งบอลพุ่งเฉี่ยวเสาไกลออกหลังไปนิดเดียวเช่นกัน
นาทีที่ 37 เชสก์ ฟาเบรกาส แตะแต่งหาส่องก่อนส่องด้วยขวาเต็มข้อจากระยะเกือบ 30 หลา บอลติดไซร้ก้อยโค้งกำลังจะเสียบสามเหลี่ยมฝั่งขวาอยู่แล้ว แต่ว่า ทิม ครูล ประตูเจ้าถิ่นโชว์ซูเปอร์เซฟ บินปัดสุดปลายมือออกหลังไปได้อย่างหวุดหวิด
Goal! แต่แล้วนาทีที่ 42 กลายเป็นเจ้าถิ่นที่มาได้ประตูออกนำไปก่อน จากลูกที่ เวอร์นอน อนิต้า โยนยาวจากริมเส้นฝั่งขวาเข้ามาในกรอบเขตโทษให้ อโยเซ เปเรซ ที่ยืนตรงกลางระหว่าง บรานิสลาฟ อิวาโนวิช กับ เคิร์ท ซูมา ดูดบอลลงหนึ่งจังหวะ ก่อนฮาร์ฟวอลเลย์ด้วยขวาเช็ดเสาแรกเข้าไปไม่เหลือ ช่วยให้นิวคาสเซิลขึ้นนำ 1-0 และก็จบครึ่งแรกไปด้วยสกอร์นี้
กลับมาเล่นในครึ่งหลังได้เพียง 9 นาที (นาทีที่ 54) นิวคาสเซิล ต้องมาเสียโควต้าเปลี่ยนตัวไปโดยปริยาย เนื่องจาก แจ็ค โคลแบ็ค กองกลางตัวรับชาวผู้ดีมีอาการบาดเจ็บจนเล่นต่อไม่ไหว ทำให้ สตีฟ แม็คคลาเรน ตัดสินใจส่ง กาเบรียล โอแบร์กต็อง ลงมาเล่นแทน
Goal!! นาทีที่ 60 นิวคาสเซิล มาทำประตูหนีห่างเป็น 2-0 จากจังหวะที่ อโยเซ เปเรซ เปิดลูกเตะมุมทางฝั่งขวาเข้าไปในกรอบเขตโทษให้ จอร์จินิโอ ไวจ์นัลดุม สลัดหนีตัวประกบโหม่งเช็ดหนีมือ อัสมีร์ เบโกวิช เสียบเสาไกลเข้าไปตุงตาข่าย
หลังจากถูกนำไปก่อนถึง 2 ประตู ทำให้ โชเซ มูรินโญ แก้เกมทันที โดยถอดเอา เนมานยา มาติช และ โลอิก เรมี ออกไปพักที่ข้างสนาม แล้วจัดการส่ง วิลเลียน กับ ราดาเมล ฟัลเกา ลงมาเล่นแทน
กระทั่งนาทีที่ 79 แชมป์เก่ามาทำประตูตีไข่แตกจนได้ จากจังหวะที่ เอเด็น อาซาร์ โชว์สเต็ปพริ้วลากตัดจากฝั่งซ้ายเข้ากลาง ก่อนไหลถวายพานออกไปทางฝั่งขวาให้ รามิเรส จับหนึ่งจังหวะ ก่อนหวดเต็มข้อล่อเต็มแข่งบอลพุ่งแรงเสียบสามเหลี่ยมเสาไกลเข้าไปอย่างสุดสวย ช่วยให้เชลซีไล่มาเป็น 1-2
ท้ายเกมนาทีที่ 88 แฟนทูนอาร์มีนั่งหน้าบูดกันเป็นแถบ หลังจากเชลซีตามตีเสมอได้สำเร็จ จากลูกฟรีคิกระยะประมาณ 25 หลาเยื้องมาทางฝั่งซ้าย และเป็น วิลเลียน รับหน้าที่ปั่นด้วยขวาเข้าไปลุ้นในเขตโทษ และเป็น รามิเรส โฉบมาโหม่งแต่ไม่โดน ทำให้บอลสวนตัว ทิม ครูล เข้าไปตุงตาข่าย
จบเกม เชลซี บุกไล่ตีเสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด ไปแบบหืดจับ 2-2 แบ่งกันไปทีมละ 1 คะแนน ทำให้ เชลซี ขยับขึ้นมาอยู่อันดับ 15 ของตาราง มี 8 คะแนน ส่วน นิวคาสเซิล จมอยู่ในอันดับ 19 ของตารางต่อไป มีเพียง 3 คะแนนเท่านั้น
สำหรับโปรแกรมนัดต่อไป นิวคาสเซิล เตรียมบุกไปเยือน แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ในวันเสาร์หน้า เวลา 21.00 น. ขณะที่ เชลซี เตรียมออกไปเยือน เอฟซี ปอร์โต้ ในศึกยูฟ่า แชมป์เปียนส์ ลีก รอบแบ่งกลุ่ม นัดสอง วันอังคารที่จะถึงนี้ เวลา 01.45 น. ตามเวลาประทศไทย
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|