เสือใต้พลิกแซงเอาก์สบวร์กท้ายเกม 2-1
หน้า 1 จาก 1
เสือใต้พลิกแซงเอาก์สบวร์กท้ายเกม 2-1
12 กันยายน 2558
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซิอเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-3-3-1 โดยมี เฌโรม บัวเต็ง ยืนเป็นสวีปเปอร์ พร้อมมีสองสต็อปเปอร์อย่าง ราฟินญา และ ดาวิด อลาบ้า ขนาบข้าง ขณะที่แนวรุกวาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยืนเป็นหน้าเป้า คอยประสานงานร่วมกับ โธมัส มุลเลอร์, ติอาโก้ อัลคันทารา และ ดั๊กลาส คอสต้า
ด้านทีมเยือนของ มาร์คุส ไวน์เซียร์ล ใช้แผน 4-5-1 โดยเน้นตั้งรับแล้วรอสวนกลับ วาง ราอูล บาโบดิญา ศูนย์หน้าทีมชาติปารากวัยเล่นหอกตัวเป้าคนเดียว คอยทำเกมรุกร่วมกับ อเล็กซานเดอร์ เอสส์ไวน์, โทเบียส เวอร์เนอร์ และมิดฟิลด์เกาหลีใต้อย่าง คู จา โชล
ครึ่งแรกเป็นบาเยิร์นที่พับสนามบุกอยู่แทบจะข้างเดียว แต่แล้วในช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 43 กลับเป็นเอาก์บวร์กที่มาได้ประตูขึ้นนำแบบเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ คู จา โชล ทำชิ่งกับ บาโบดิญา ทางกราบขวา ก่อนที่กองกลางโสมขาวจะตบเข้ากลางให้ เอสส์ไวน์ ซัดเต็มทแรงแบบไม่จับด้วยขวาแสกหน้า มานูเอล นอยเออร์ แบบตาข่ายแทบขาด ช่วยให้ทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในช่วง 45 นาทีแรก 1-0
ครึ่งหลังเสือใต้ที่ตามหลังไม่มีทางเลือก ต้องเปิดเกมบกุอย่างหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 77 ก็มาทำสำเร็จ จากความสามารถเฉพาะตัวของ เลวานดอฟสกี้ ที่ลากลุยขึ้นมาจากกลางสนาม ก่อนจะเลี้ยงหลบแนวรับทีมเยือนแล้วจ่ายให้ มุลเลอร์ แปด้วยขวาติดเซฟนายด่านเอาก์สบวร์กมาเข้าทาง หอกชาวโปแลนด์ชาร์จจ่อๆเข้าไป ช่วยให้เจ้าบ้านตีเสมอเป็น 1-1
หลังตีเสมอได้ ทำให้บาเยิร์นยิ่งบุกหนักกว่าเดิม จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาก็มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า โดน มาร์คุส ฟาวล์เนอร์ ขวางล้มลงในกรอบ 18 หลา ก่อนจะเป็น มุลเลอร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ช่วยให้เสือใต้แซงนำ 2-1
สุดท้ายจบเกมเป็นบาเยิร์น มิวนิคที่พลิกกลับมาเอาชนะไปแบบหืดจับ 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์อยู่ 2 แต้ม ส่วนเอาก์สบวร์กอยู่อันดับ 15 มีแค่แต้มเดียวเท่าเดิม
เป๊ป กวาร์ดิโอลา กุนซิอเจ้าบ้าน เลือกจัดทัพมาในระบบ 3-3-3-1 โดยมี เฌโรม บัวเต็ง ยืนเป็นสวีปเปอร์ พร้อมมีสองสต็อปเปอร์อย่าง ราฟินญา และ ดาวิด อลาบ้า ขนาบข้าง ขณะที่แนวรุกวาง โรเบิร์ต เลวานดอฟสกี้ ยืนเป็นหน้าเป้า คอยประสานงานร่วมกับ โธมัส มุลเลอร์, ติอาโก้ อัลคันทารา และ ดั๊กลาส คอสต้า
ด้านทีมเยือนของ มาร์คุส ไวน์เซียร์ล ใช้แผน 4-5-1 โดยเน้นตั้งรับแล้วรอสวนกลับ วาง ราอูล บาโบดิญา ศูนย์หน้าทีมชาติปารากวัยเล่นหอกตัวเป้าคนเดียว คอยทำเกมรุกร่วมกับ อเล็กซานเดอร์ เอสส์ไวน์, โทเบียส เวอร์เนอร์ และมิดฟิลด์เกาหลีใต้อย่าง คู จา โชล
ครึ่งแรกเป็นบาเยิร์นที่พับสนามบุกอยู่แทบจะข้างเดียว แต่แล้วในช่วงท้ายครึ่งแรก นาทีที่ 43 กลับเป็นเอาก์บวร์กที่มาได้ประตูขึ้นนำแบบเหลือเชื่อ จากจังหวะที่ คู จา โชล ทำชิ่งกับ บาโบดิญา ทางกราบขวา ก่อนที่กองกลางโสมขาวจะตบเข้ากลางให้ เอสส์ไวน์ ซัดเต็มทแรงแบบไม่จับด้วยขวาแสกหน้า มานูเอล นอยเออร์ แบบตาข่ายแทบขาด ช่วยให้ทีมเยือนบุกมานำไปก่อนในช่วง 45 นาทีแรก 1-0
ครึ่งหลังเสือใต้ที่ตามหลังไม่มีทางเลือก ต้องเปิดเกมบกุอย่างหนักเพื่อหวังตีเสมอให้ได้ จนกระทั่งนาทีที่ 77 ก็มาทำสำเร็จ จากความสามารถเฉพาะตัวของ เลวานดอฟสกี้ ที่ลากลุยขึ้นมาจากกลางสนาม ก่อนจะเลี้ยงหลบแนวรับทีมเยือนแล้วจ่ายให้ มุลเลอร์ แปด้วยขวาติดเซฟนายด่านเอาก์สบวร์กมาเข้าทาง หอกชาวโปแลนด์ชาร์จจ่อๆเข้าไป ช่วยให้เจ้าบ้านตีเสมอเป็น 1-1
หลังตีเสมอได้ ทำให้บาเยิร์นยิ่งบุกหนักกว่าเดิม จนกระทั่งนาทีสุดท้ายก่อนทดเวลาก็มาได้จุดโทษ จากจังหวะที่ ดั๊กลาส คอสต้า โดน มาร์คุส ฟาวล์เนอร์ ขวางล้มลงในกรอบ 18 หลา ก่อนจะเป็น มุลเลอร์ รับหน้าที่สังหารเข้าไปไม่พลาด ช่วยให้เสือใต้แซงนำ 2-1
สุดท้ายจบเกมเป็นบาเยิร์น มิวนิคที่พลิกกลับมาเอาชนะไปแบบหืดจับ 2-1 เก็บเพิ่มเป็น 10 คะแนน ตามหลังจ่าฝูงอย่างโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์อยู่ 2 แต้ม ส่วนเอาก์สบวร์กอยู่อันดับ 15 มีแค่แต้มเดียวเท่าเดิม
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|