กิ๊กส์ VS เจอร์ราร์ด by Jackie
หน้า 1 จาก 1
กิ๊กส์ VS เจอร์ราร์ด by Jackie
ขอบคุณ : Siamsport
[b]วันก่อนได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ หลุยส์ ฟาน กัล ฟังแล้วทะแม่งๆ ชอบกล [b]
เขาบอกว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล นักเตะกองหน้าตัวใหม่เจ้าของฉายา "อองรี 2" ถูกซื้อตัวมาเพื่อผจก.คนต่อไปที่จะมาทำหน้าที่แทนเขา
ว่าแปลกมั้ยครับ...กับการให้สัมภาษณ์ที่ค่อนข้างจะโปร่งใสในความรู้สึกว่าคุณคิดอะไร ครั้นจะบอกว่าภาษาอังกฤษไม่เป๊ะของฟาน กัล ก็คงไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว หรือเขาอาจจงใจพูดให้คนได้ฟังและคิดตามว่ามันเป็นเช่นนั้น
ฟาน กัลพูดต่อหน้าสมาชิกตั๋วปีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1,000 คนเป็นเวลา 40 นาทีที่สนามคริกเกต แลงคาเชียร์ ละแวกโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นแหละครับ (ผมเคยเดินผ่าน) เขาพูดหลากหลายประเด็นแต่มีคนนำมาขยายผล 2 เรื่องซึ่งเชื่อมโยงกัน
1. เขา (อ็องโตนี่)? ซื้อมาเพื่อผจก.คนต่อไป
2. ไรอัน กิ๊กส์ คือผจก. ที่เหมาะสมในการมาทำงานแทนที่ผม
ฟาน กัลบอก เขาจะทำงานจนครบสัญญาปี 2017 (คิดว่าไม่โดนปลดออกแน่ๆ) จากนั้น ไรอัน กิ๊กส์ น่าจะเป็นทายาทการทำงานของเขา
ผี-ha...ซาตานตนไหนดลใจให้เขาพูดแบบนั้น
แน่นอนครับมันคือความกดดันที่เกิดขึ้นหลังจากออกตัวกระท่อนกระแท่น แถมสไตล์การเล่นยังไม่เป็นที่ปลาบปลื้มใจแก่เร้ด เดวิลส์ ทั้งโลก แม้กระทั่งเด็กหงส์อย่างผมเองยังรู้สึกว่าตัวตนที่แท้จริงของผีแดงหายไป
ฟาน กัลมาทำงานของเขาตามปรัชญาส่วนตัวที่ละเมิด "สไตล์" ปีศาจแดง บอลมันก็เลยดูไม่สนุก ส่งกันไปส่งกันมาในแดนหลัง ขวางสนาม เลี้ยงตัดใน ไม่จ่ายช่อง ไม่มีจี้ชิ่ง วิ่งอ้อมหลัง ยิงไกล, ฟรีคิก, เตะมุม อะไรที่เป็นเกมรุกแบบสุดๆ ที่เราเคยเห็น
หายไปหมด
นั่นก็ข้อหนึ่งที่สำคัญ...ล่าสุดมีข่าวว่า เวย์น รูนี่ย์ กัปตันทีมและรองกัปตัน ไมเคิ่ล คาร์ริค (ดีนะ ฟาน กัล ไม่ตั้งชไวน์สไตเกอร์เป็นรองกัปตัน) ขอเข้าพบและไปเคลียร์กันในห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ซึ่งเรื่องนี้ ฟาน กัลยอมรับเองว่าจริงๆ แต่บอกไม่มีอะไร แค่มาคุยเรื่องการทำงาน
ประเด็นที่นักข่าวเขานำเสนอคือ นักเตะผีแดงไม่พอใจการฝึกซ้อมและวินัยที่เข้มเกิน ซึ่งเชื่อว่าแฟนบอลเองก็พึ่งทราบว่าหลังบินกลับจากปรีซีซั่น ทัวร์ที่สหรัฐอเมริกา นักเตะเองก็เข้าใจว่าลงเครื่องแล้วจะกลับบ้าน
ที่ไหนได้ ฟาน กัลสั่งซ้อมหนึ่งมื้อก่อนปล่อยนักเตะกลับบ้าน
อืมมม...เข้มจริง
เรื่องราวในเชิงลบมุ่งเข้าหาตัวฟาน กัล ทั้งเรื่องสไตล์การเล่น, การแก้เกม, การทำงานของเขากับทีม และผลแข่งที่ออกมาดูไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในทางบวก ส่งผลให้กลุ่มสมาชิกแฟนบอลแมนฯ ยูฯ ที่อังกฤษ มีโปรเจกต์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นนั่นคือ...หากฟาน กัลไปไม่รอด แมนฯ ยูฯ ไม่ต้องไปหาผจก.ที่ไหนมาแทน
ไรอัน กิ๊กส์ นี่แหละเหมาะสมที่สุด
ประเด็นนี้เกิดขึ้นก่อนที่ฟาน กัล จะไปบรรยายให้สมาชิกตั๋วปี 1,000 คนฟัง และมันเหมือนมีแรงกดดันแอบซ่อนอยู่ จนทำให้เขาต้องพูดประเด็น ผจก. คนต่อไปและคิดว่า ไรอัน กิ๊กส์ เหมาะสมที่สุด
พี่บอ.บู๋ เอามาเล่าให้ผมฟังว่า...เวลานี้ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะเป็นเพราะฟาน กัล ทำงานครบสัญญาแล้วไม่ต่อหรือโดนปลดออกก่อนปี 2017 ผจก.คนต่อไปใช้ ไรอัน กิ๊กส์ ไปเลย
แมนฯ ยูฯ จะได้กลับมามีเอกลักษณ์ตัวตนในเกมรุกและวิธีการเล่นที่หวือหวาอีกครั้ง ซึ่งแฟนผีเชื่อว่า ไรอัน กิ๊กส์ นักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหราชอาณาจักร ได้ทุกแชมป์ระดับสโมสรตั้งแต่พรีเมียร์ลีก, บอลถ้วย, บอลยุโรป ไปจนถึงสโมสรโลก เป็นคนที่ซึมซาบแนวทางแบบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัด จนแขวนสตั๊ดกับทีม
เรียกว่าถ้าไม่นับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นะครับ...จะมีใครมารู้จักแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลึกซึ้งถึงแก่นเท่ากับกิ๊กส์ ไม่มีอีกแล้ว
จะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เจอร์เก้น คล็อปป์, โชเซ่ มูรินโญ่, เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (มาไง...แถมให้ไง) ทุกคนรู้จักศาสตร์ฟุตบอลและมีประสบการณ์แต่การรู้จักแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และซึมซาบความเป็นแมนฯ ยูฯ สถาบันฟุตบอลที่เป็นแบรนดิ้ง สโมสรฟุตบอลมากมายเท่ากิ๊กส์
ไม่มี...แน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์
แฟนผีที่อังกฤษมองประเด็นนี้เพราะอะไร ทั้งที่กิ๊กส์แทบไม่มีประสบการณ์คุมทีมฟุตบอล นอกจากเป็นผู้ช่วยและเป็นอดีตนักเตะที่เก่งกาจเท่านั้น
ผมเชื่อว่าแฟนผีลึกซึ้ง เพราะแฟนผีส่วนใหญ่มีช่วงอายุ 40-70 เป็นแฟนบอลรุ่นใหญ่ เชียร์ผีมานาน รู้ความเป็นไป...และมีความคิดที่กลั่นกรอง ไม่เกรียน เอามัน ด่าทีมโน้นทีมนี้ เหมือนแฟนบอลในบ้านเรา
พูดง่ายๆ ว่ามีสมอง มีความคิดของการเป็นแฟนบอลอย่างแท้จริง
แฟนผีน่าจะมองว่า...ถ้าคุณเปลี่ยนผจก. ซื้อตัวมาทำงาน มันก็คือการเปลี่ยนแปลงผจก. เพื่อให้มีความสำเร็จระยะสั้น ทันทีทันใด แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วยังไงต่อ ความสำเร็จแบบยั่งยืนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เคยทำมาคงเกิดขึ้นยาก
ดังนั้นต้องยอมถอยหลัง 2 ก้าวเพื่อเดินหน้า 5 ก้าว นำคนในคือ ไรอัน กิ๊กส์ พร้อมแรงหนุนจากแฟนบอลรวมทั้งทุกคนเจ้าหน้าที่, ตำนาน, ผู้บริหารในสถาบันผีแดงแห่งนี้ เพื่อให้มีพื้นฐานที่แน่น แล้วก้าวเดินอย่างมั่นคง
ในเมื่อไม่สามารถหาคนที่จะมาเสกให้ได้ความสำเร็จ หรือถ้าหามาได้พื้นฐานจะไม่แน่น เหมือนซื้อผจก. มาทำให้ทีมเป็นแชมป์แล้วก็ไป ไม่ยั่งยืน สู้นำ ไรอัน กิ๊กส์ มาทำงานแล้ว "รอ" เวลาสักระยะ อดทนซื้อเวลาตรงนี้
ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่งที่ติดตามฟุตบอลมาค่อนชีวิตก็ 30 ปีนะครับผมเนี่ย...ผมคิดว่า แฟนผีต้องการพื้นฐานทางฟุตบอลก่อนความสำเร็จนั่นคือ "สไตล์" การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์และทำให้บอลดูสนุก หวือหวา ก่อนได้ชัยชนะ และความสำเร็จ
แมนฯ ยูฯ จะไปเล่นบอล เคาะกันไปมา พาสซิ่งเกม ไม่มีตัวรุกริมเส้น หรือการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวคงไม่ใช่ เพราะแฟนบอล 76,000 คนในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รวมทั้งอีกเป็นร้อยล้านคนทั่วโลกเขาจงรักภักดีเชียร์ทีมเพราะอะไร
สไตล์การเล่น...คิดดูในวันที่ลิเวอร์พูลยิ่งใหญ่ แต่แมนฯ ยูฯ กลับเป็นทีมที่เล่นบอลสนุก ตื่นเต้น หวือหวา เอาใจแฟนบอลเพียงแต่...ขาดถ้วยรางวัลและความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม กระนั้นสิ่งที่ได้คือ "หัวใจ" ของแฟนบอลที่ติดตามสไตล์การเล่นของผีแดง
ผมสรุปนะครับว่า ถ้าแฟนผีต้องการกิ๊กส์ เพราะเป็นคนใน เป็นลูกหลานของพวกเขา เป็นคนเข้าใจวิถีแห่งฟุตบอลแมนฯ ยูฯ ลึกซึ้ง นั่นหมายความว่าพวกเขายอมอดทน "รอ" ความสำเร็จที่น่าจะเกิดจากการเล่นฟุตบอลแบบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประเด็นนี้ยังไม่มีเด็กหงส์ที่อังกฤษรวมตัวกันเรียกร้องอะไรแบบนี้ เพราะถ้าจะถามว่ามีใครที่เป็นอดีตนักเตะหงส์แดงแล้วยิ่งใหญ่ระดับใกล้เคียงกับกับกิ๊กส์ (จำนวนถ้วยและความสำเร็จ) ซึ่งถ้าจะมีก็ อลัน แฮนเซ่น ตกยุค นี่ก็เลิกวิเคราะห์ฟุตบอลไปแล้ว
เอาแบบใกล้ที่สุดก็คือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด นักเตะจากแอลเอ แกแล็กซี่
เมื่อมองดูสถานการณ์ของลิเวอร์พูลก็แทบไม่ต่างจากแมนฯ ยูฯ ในแง่ของฟุตบอลและผู้จัดการทีม ถึงวันนี้แฟนบอลไม่ปลื้มและคือว่า ร็อดเจอร์ส "ไม่ใช่" เหมือนที่ผมเขียนไปมกราคมต้นปี หลังจากทราบว่าเขามีปัญหากับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และเขาไม่เลือกเก็บ "มูลค่า" ของทีมอย่างเจอร์ราร์ดไว้
วันนี้ทราบแล้วจากปากเจอร์ราร์ดว่า ร็อดเจอร์สไม่มีอำนาจ ไม่มีบทบาทเรื่องการต่อรองอะไร เพราะทำงานตามใบสั่ง "นายใหญ่" ที่สหรัฐฯ โดย เอียน แอร์ ผู้บริหารทีมคือคนที่มาต่อรองเรื่องนี้ และทำงานแบบคนไม่รู้จักฟุตบอลมากพอ คิดแต่เงินทอง วนเวียนต่อการลดราคาค่าจ้างเจอร์ราร์ด ไม่มีหัวคิดว่า เราควรจะเก็บเจอร์ราร์ดเอาไว้กับทีมมั้ย ทำอะไรได้บ้าง เพราะฟุตบอลคงยากที่จะเล่นทุกนัดทุกนาที
เจอร์ราร์ดบอกว่าคุยกับแอร์แล้ว ไม่มีอะไรเลย แม้กระทั่งตำแหน่งที่เป็นประเพณีของนักเตะเก่าผู้รับใช้ทีมมานาน...ก่อนแขวนสตั๊ดคือ player and coach ซึ่งหลายทีมทำ ไรอัน กิ๊กส์ ก็เป็นแบบนั้น
ใช้ประสบการณ์ช่วยทีมในสนามซ้อม, สนามแข่ง ในขณะเดียวก็เตรียมเบนเข็มไปทำงานด้านโค้ช ไปเรียนไลเซนส์ เพื่อให้ได้วิชาความรู้ฟุตบอลมาเสริมประสบการณ์ลูกหนัง
เจอร์ราร์ดบอกไม่มีพูดไรเลย มาพูดตอนหลังไม่ต่อสัญญา ซึ่งเหมือนโยนขี้ให้เขา เขาบอกว่า "จะให้ผมนั่งข้างสนาม แล้วเปลี่ยนตัวไปช่วยทีม ให้ผมช่วยงานโค้ช ช่วยอะไรก็ได้ในทีมลิเวอร์พูล ผมทำหมด ถ้าจะเป็นประโยชน์อะไรกับทีม"
นี่ไงครับ...สโมสรลิเวอร์พูลมักตกอยู่ในมือของบุคลการที่เฮงซวย sud
เจอร์ราร์ดไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรกว่าสโมสรอันนี้จริง...แต่เจอร์ราร์ดคือหนึ่งในกระบวนการสร้างบุคลากรผ่านสถาบันและเขาคือตัวแทนของนักเตะรุ่นใหม่และแฟนบอล ลิเวอร์พูลสร้างเขามาและนักเตะที่จงรักภักดีต่อทีมอย่างนี้หาได้ยากและหาค่ามิได้
ทว่า...เขากลับต้องไปเล่นบอลที่ฮอลลีวู้ด ในช่วงก่อนแขวนสตั๊ดนี่นะครับ
ผมคิดว่า...ตอนนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด น่าจะเตรียมเรียนโค้ชเพื่อวันหนึ่งจะได้กลับมาสู่วงการฟุตบอลในฐานะผู้จัดการทีม และถ้าเป็นไปได้ อยากให้เป็นจริงคือการกลับมาคุมลิเวอร์พูล ซึ่งแน่นอนเขาก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ในบทบาทใหม่
ประเด็นนี้ผมถามพี่ บอ.บู๋ ว่าโอเคมั้ย ในอนาคตเราจะได้เห็นทายาทของสถาบันสโมสรฟุตบอลสองแห่งอย่าง กิ๊กส์ กับ เจอร์ราร์ด มาปะทะฝีมือกันในศึกแดงเดือด
พี่บู๋ตอบให้ชื่นใจว่า...สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยังไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกนะ!
ครับ...เจอร์ราร์ดไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ในฐานะนักเตะ ถ้านั่นจะเป็นแรงปรารถนาเพื่อลบความผิดหวังอย่างรุนแรงในฐานะผู้เล่น ผมเชื่อว่าเจอร์ราร์ดมีความต้องการอย่างยิ่งที่จะทำให้เด็กหงส์ทั่วโลก รวมทั้งตัวเขาเองมีความสุขในการนำทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิ่งต้องเป็นโค้ชและต้องมาคุมทีมลิเวอร์พูลนั่นเอง!!!
Jackie
[b]วันก่อนได้อ่านบทสัมภาษณ์ของ หลุยส์ ฟาน กัล ฟังแล้วทะแม่งๆ ชอบกล [b]
เขาบอกว่า อ็องโตนี่ มาร์กซิยาล นักเตะกองหน้าตัวใหม่เจ้าของฉายา "อองรี 2" ถูกซื้อตัวมาเพื่อผจก.คนต่อไปที่จะมาทำหน้าที่แทนเขา
ว่าแปลกมั้ยครับ...กับการให้สัมภาษณ์ที่ค่อนข้างจะโปร่งใสในความรู้สึกว่าคุณคิดอะไร ครั้นจะบอกว่าภาษาอังกฤษไม่เป๊ะของฟาน กัล ก็คงไม่ใช่แบบนั้นซะทีเดียว หรือเขาอาจจงใจพูดให้คนได้ฟังและคิดตามว่ามันเป็นเช่นนั้น
ฟาน กัลพูดต่อหน้าสมาชิกตั๋วปีของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 1,000 คนเป็นเวลา 40 นาทีที่สนามคริกเกต แลงคาเชียร์ ละแวกโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด นั่นแหละครับ (ผมเคยเดินผ่าน) เขาพูดหลากหลายประเด็นแต่มีคนนำมาขยายผล 2 เรื่องซึ่งเชื่อมโยงกัน
1. เขา (อ็องโตนี่)? ซื้อมาเพื่อผจก.คนต่อไป
2. ไรอัน กิ๊กส์ คือผจก. ที่เหมาะสมในการมาทำงานแทนที่ผม
ฟาน กัลบอก เขาจะทำงานจนครบสัญญาปี 2017 (คิดว่าไม่โดนปลดออกแน่ๆ) จากนั้น ไรอัน กิ๊กส์ น่าจะเป็นทายาทการทำงานของเขา
ผี-ha...ซาตานตนไหนดลใจให้เขาพูดแบบนั้น
แน่นอนครับมันคือความกดดันที่เกิดขึ้นหลังจากออกตัวกระท่อนกระแท่น แถมสไตล์การเล่นยังไม่เป็นที่ปลาบปลื้มใจแก่เร้ด เดวิลส์ ทั้งโลก แม้กระทั่งเด็กหงส์อย่างผมเองยังรู้สึกว่าตัวตนที่แท้จริงของผีแดงหายไป
ฟาน กัลมาทำงานของเขาตามปรัชญาส่วนตัวที่ละเมิด "สไตล์" ปีศาจแดง บอลมันก็เลยดูไม่สนุก ส่งกันไปส่งกันมาในแดนหลัง ขวางสนาม เลี้ยงตัดใน ไม่จ่ายช่อง ไม่มีจี้ชิ่ง วิ่งอ้อมหลัง ยิงไกล, ฟรีคิก, เตะมุม อะไรที่เป็นเกมรุกแบบสุดๆ ที่เราเคยเห็น
หายไปหมด
นั่นก็ข้อหนึ่งที่สำคัญ...ล่าสุดมีข่าวว่า เวย์น รูนี่ย์ กัปตันทีมและรองกัปตัน ไมเคิ่ล คาร์ริค (ดีนะ ฟาน กัล ไม่ตั้งชไวน์สไตเกอร์เป็นรองกัปตัน) ขอเข้าพบและไปเคลียร์กันในห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัว ซึ่งเรื่องนี้ ฟาน กัลยอมรับเองว่าจริงๆ แต่บอกไม่มีอะไร แค่มาคุยเรื่องการทำงาน
ประเด็นที่นักข่าวเขานำเสนอคือ นักเตะผีแดงไม่พอใจการฝึกซ้อมและวินัยที่เข้มเกิน ซึ่งเชื่อว่าแฟนบอลเองก็พึ่งทราบว่าหลังบินกลับจากปรีซีซั่น ทัวร์ที่สหรัฐอเมริกา นักเตะเองก็เข้าใจว่าลงเครื่องแล้วจะกลับบ้าน
ที่ไหนได้ ฟาน กัลสั่งซ้อมหนึ่งมื้อก่อนปล่อยนักเตะกลับบ้าน
อืมมม...เข้มจริง
เรื่องราวในเชิงลบมุ่งเข้าหาตัวฟาน กัล ทั้งเรื่องสไตล์การเล่น, การแก้เกม, การทำงานของเขากับทีม และผลแข่งที่ออกมาดูไม่มีอะไรเปลี่ยนไปในทางบวก ส่งผลให้กลุ่มสมาชิกแฟนบอลแมนฯ ยูฯ ที่อังกฤษ มีโปรเจกต์ที่น่าสนใจเกิดขึ้นนั่นคือ...หากฟาน กัลไปไม่รอด แมนฯ ยูฯ ไม่ต้องไปหาผจก.ที่ไหนมาแทน
ไรอัน กิ๊กส์ นี่แหละเหมาะสมที่สุด
ประเด็นนี้เกิดขึ้นก่อนที่ฟาน กัล จะไปบรรยายให้สมาชิกตั๋วปี 1,000 คนฟัง และมันเหมือนมีแรงกดดันแอบซ่อนอยู่ จนทำให้เขาต้องพูดประเด็น ผจก. คนต่อไปและคิดว่า ไรอัน กิ๊กส์ เหมาะสมที่สุด
พี่บอ.บู๋ เอามาเล่าให้ผมฟังว่า...เวลานี้ตัวเลือกที่เหมาะสมที่สุดหากมีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นจะเป็นเพราะฟาน กัล ทำงานครบสัญญาแล้วไม่ต่อหรือโดนปลดออกก่อนปี 2017 ผจก.คนต่อไปใช้ ไรอัน กิ๊กส์ ไปเลย
แมนฯ ยูฯ จะได้กลับมามีเอกลักษณ์ตัวตนในเกมรุกและวิธีการเล่นที่หวือหวาอีกครั้ง ซึ่งแฟนผีเชื่อว่า ไรอัน กิ๊กส์ นักเตะที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดในสหราชอาณาจักร ได้ทุกแชมป์ระดับสโมสรตั้งแต่พรีเมียร์ลีก, บอลถ้วย, บอลยุโรป ไปจนถึงสโมสรโลก เป็นคนที่ซึมซาบแนวทางแบบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด มาตั้งแต่เป็นเด็กฝึกหัด จนแขวนสตั๊ดกับทีม
เรียกว่าถ้าไม่นับ เซอร์ อเล็กซ์ เฟอร์กูสัน นะครับ...จะมีใครมารู้จักแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ได้ลึกซึ้งถึงแก่นเท่ากับกิ๊กส์ ไม่มีอีกแล้ว
จะ เป๊ป กวาร์ดิโอล่า, เจอร์เก้น คล็อปป์, โชเซ่ มูรินโญ่, เบรนแดน ร็อดเจอร์ส (มาไง...แถมให้ไง) ทุกคนรู้จักศาสตร์ฟุตบอลและมีประสบการณ์แต่การรู้จักแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด และซึมซาบความเป็นแมนฯ ยูฯ สถาบันฟุตบอลที่เป็นแบรนดิ้ง สโมสรฟุตบอลมากมายเท่ากิ๊กส์
ไม่มี...แน่นอน ล้านเปอร์เซ็นต์
แฟนผีที่อังกฤษมองประเด็นนี้เพราะอะไร ทั้งที่กิ๊กส์แทบไม่มีประสบการณ์คุมทีมฟุตบอล นอกจากเป็นผู้ช่วยและเป็นอดีตนักเตะที่เก่งกาจเท่านั้น
ผมเชื่อว่าแฟนผีลึกซึ้ง เพราะแฟนผีส่วนใหญ่มีช่วงอายุ 40-70 เป็นแฟนบอลรุ่นใหญ่ เชียร์ผีมานาน รู้ความเป็นไป...และมีความคิดที่กลั่นกรอง ไม่เกรียน เอามัน ด่าทีมโน้นทีมนี้ เหมือนแฟนบอลในบ้านเรา
พูดง่ายๆ ว่ามีสมอง มีความคิดของการเป็นแฟนบอลอย่างแท้จริง
แฟนผีน่าจะมองว่า...ถ้าคุณเปลี่ยนผจก. ซื้อตัวมาทำงาน มันก็คือการเปลี่ยนแปลงผจก. เพื่อให้มีความสำเร็จระยะสั้น ทันทีทันใด แต่มันไม่ใช่เรื่องง่าย แต่ถ้ามันเกิดขึ้นแล้วยังไงต่อ ความสำเร็จแบบยั่งยืนที่ เซอร์ อเล็กซ์ เคยทำมาคงเกิดขึ้นยาก
ดังนั้นต้องยอมถอยหลัง 2 ก้าวเพื่อเดินหน้า 5 ก้าว นำคนในคือ ไรอัน กิ๊กส์ พร้อมแรงหนุนจากแฟนบอลรวมทั้งทุกคนเจ้าหน้าที่, ตำนาน, ผู้บริหารในสถาบันผีแดงแห่งนี้ เพื่อให้มีพื้นฐานที่แน่น แล้วก้าวเดินอย่างมั่นคง
ในเมื่อไม่สามารถหาคนที่จะมาเสกให้ได้ความสำเร็จ หรือถ้าหามาได้พื้นฐานจะไม่แน่น เหมือนซื้อผจก. มาทำให้ทีมเป็นแชมป์แล้วก็ไป ไม่ยั่งยืน สู้นำ ไรอัน กิ๊กส์ มาทำงานแล้ว "รอ" เวลาสักระยะ อดทนซื้อเวลาตรงนี้
ในฐานะแฟนบอลคนหนึ่งที่ติดตามฟุตบอลมาค่อนชีวิตก็ 30 ปีนะครับผมเนี่ย...ผมคิดว่า แฟนผีต้องการพื้นฐานทางฟุตบอลก่อนความสำเร็จนั่นคือ "สไตล์" การเล่นที่เป็นเอกลักษณ์และทำให้บอลดูสนุก หวือหวา ก่อนได้ชัยชนะ และความสำเร็จ
แมนฯ ยูฯ จะไปเล่นบอล เคาะกันไปมา พาสซิ่งเกม ไม่มีตัวรุกริมเส้น หรือการโจมตีที่น่าสะพรึงกลัวคงไม่ใช่ เพราะแฟนบอล 76,000 คนในโอลด์ แทร็ฟฟอร์ด รวมทั้งอีกเป็นร้อยล้านคนทั่วโลกเขาจงรักภักดีเชียร์ทีมเพราะอะไร
สไตล์การเล่น...คิดดูในวันที่ลิเวอร์พูลยิ่งใหญ่ แต่แมนฯ ยูฯ กลับเป็นทีมที่เล่นบอลสนุก ตื่นเต้น หวือหวา เอาใจแฟนบอลเพียงแต่...ขาดถ้วยรางวัลและความสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรม กระนั้นสิ่งที่ได้คือ "หัวใจ" ของแฟนบอลที่ติดตามสไตล์การเล่นของผีแดง
ผมสรุปนะครับว่า ถ้าแฟนผีต้องการกิ๊กส์ เพราะเป็นคนใน เป็นลูกหลานของพวกเขา เป็นคนเข้าใจวิถีแห่งฟุตบอลแมนฯ ยูฯ ลึกซึ้ง นั่นหมายความว่าพวกเขายอมอดทน "รอ" ความสำเร็จที่น่าจะเกิดจากการเล่นฟุตบอลแบบแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด
ประเด็นนี้ยังไม่มีเด็กหงส์ที่อังกฤษรวมตัวกันเรียกร้องอะไรแบบนี้ เพราะถ้าจะถามว่ามีใครที่เป็นอดีตนักเตะหงส์แดงแล้วยิ่งใหญ่ระดับใกล้เคียงกับกับกิ๊กส์ (จำนวนถ้วยและความสำเร็จ) ซึ่งถ้าจะมีก็ อลัน แฮนเซ่น ตกยุค นี่ก็เลิกวิเคราะห์ฟุตบอลไปแล้ว
เอาแบบใกล้ที่สุดก็คือ สตีเว่น เจอร์ราร์ด นักเตะจากแอลเอ แกแล็กซี่
เมื่อมองดูสถานการณ์ของลิเวอร์พูลก็แทบไม่ต่างจากแมนฯ ยูฯ ในแง่ของฟุตบอลและผู้จัดการทีม ถึงวันนี้แฟนบอลไม่ปลื้มและคือว่า ร็อดเจอร์ส "ไม่ใช่" เหมือนที่ผมเขียนไปมกราคมต้นปี หลังจากทราบว่าเขามีปัญหากับ สตีเว่น เจอร์ราร์ด และเขาไม่เลือกเก็บ "มูลค่า" ของทีมอย่างเจอร์ราร์ดไว้
วันนี้ทราบแล้วจากปากเจอร์ราร์ดว่า ร็อดเจอร์สไม่มีอำนาจ ไม่มีบทบาทเรื่องการต่อรองอะไร เพราะทำงานตามใบสั่ง "นายใหญ่" ที่สหรัฐฯ โดย เอียน แอร์ ผู้บริหารทีมคือคนที่มาต่อรองเรื่องนี้ และทำงานแบบคนไม่รู้จักฟุตบอลมากพอ คิดแต่เงินทอง วนเวียนต่อการลดราคาค่าจ้างเจอร์ราร์ด ไม่มีหัวคิดว่า เราควรจะเก็บเจอร์ราร์ดเอาไว้กับทีมมั้ย ทำอะไรได้บ้าง เพราะฟุตบอลคงยากที่จะเล่นทุกนัดทุกนาที
เจอร์ราร์ดบอกว่าคุยกับแอร์แล้ว ไม่มีอะไรเลย แม้กระทั่งตำแหน่งที่เป็นประเพณีของนักเตะเก่าผู้รับใช้ทีมมานาน...ก่อนแขวนสตั๊ดคือ player and coach ซึ่งหลายทีมทำ ไรอัน กิ๊กส์ ก็เป็นแบบนั้น
ใช้ประสบการณ์ช่วยทีมในสนามซ้อม, สนามแข่ง ในขณะเดียวก็เตรียมเบนเข็มไปทำงานด้านโค้ช ไปเรียนไลเซนส์ เพื่อให้ได้วิชาความรู้ฟุตบอลมาเสริมประสบการณ์ลูกหนัง
เจอร์ราร์ดบอกไม่มีพูดไรเลย มาพูดตอนหลังไม่ต่อสัญญา ซึ่งเหมือนโยนขี้ให้เขา เขาบอกว่า "จะให้ผมนั่งข้างสนาม แล้วเปลี่ยนตัวไปช่วยทีม ให้ผมช่วยงานโค้ช ช่วยอะไรก็ได้ในทีมลิเวอร์พูล ผมทำหมด ถ้าจะเป็นประโยชน์อะไรกับทีม"
นี่ไงครับ...สโมสรลิเวอร์พูลมักตกอยู่ในมือของบุคลการที่เฮงซวย sud
เจอร์ราร์ดไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไรกว่าสโมสรอันนี้จริง...แต่เจอร์ราร์ดคือหนึ่งในกระบวนการสร้างบุคลากรผ่านสถาบันและเขาคือตัวแทนของนักเตะรุ่นใหม่และแฟนบอล ลิเวอร์พูลสร้างเขามาและนักเตะที่จงรักภักดีต่อทีมอย่างนี้หาได้ยากและหาค่ามิได้
ทว่า...เขากลับต้องไปเล่นบอลที่ฮอลลีวู้ด ในช่วงก่อนแขวนสตั๊ดนี่นะครับ
ผมคิดว่า...ตอนนี้ สตีเว่น เจอร์ราร์ด น่าจะเตรียมเรียนโค้ชเพื่อวันหนึ่งจะได้กลับมาสู่วงการฟุตบอลในฐานะผู้จัดการทีม และถ้าเป็นไปได้ อยากให้เป็นจริงคือการกลับมาคุมลิเวอร์พูล ซึ่งแน่นอนเขาก็มีโอกาสประสบความสำเร็จได้ในบทบาทใหม่
ประเด็นนี้ผมถามพี่ บอ.บู๋ ว่าโอเคมั้ย ในอนาคตเราจะได้เห็นทายาทของสถาบันสโมสรฟุตบอลสองแห่งอย่าง กิ๊กส์ กับ เจอร์ราร์ด มาปะทะฝีมือกันในศึกแดงเดือด
พี่บู๋ตอบให้ชื่นใจว่า...สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยังไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ลีกนะ!
ครับ...เจอร์ราร์ดไม่เคยได้แชมป์พรีเมียร์ในฐานะนักเตะ ถ้านั่นจะเป็นแรงปรารถนาเพื่อลบความผิดหวังอย่างรุนแรงในฐานะผู้เล่น ผมเชื่อว่าเจอร์ราร์ดมีความต้องการอย่างยิ่งที่จะทำให้เด็กหงส์ทั่วโลก รวมทั้งตัวเขาเองมีความสุขในการนำทีมคว้าแชมป์ลีกสูงสุด
สตีเว่น เจอร์ราร์ด ยิ่งต้องเป็นโค้ชและต้องมาคุมทีมลิเวอร์พูลนั่นเอง!!!
Jackie
หน้า 1 จาก 1
Permissions in this forum:
คุณไม่สามารถพิมพ์ตอบ
|
|